ประวัติ ของ เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก

เรือบริแทนนิกถูก ปล่อยลงน้ำเป็นครั้งแรก ใน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1914[3] ตกแต่งเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1915[4]

เรือบริแทนนิกเป็นเรือคู่แฝดกับ อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก และ อาร์เอ็มเอส ไททานิก

บริแทนนิกกำลังจะจม

ตอนแรกจะใช้ชื่อ อาร์เอ็มเอส ไจแกนติก หรือ อาร์เอ็มเอส ไกแกนติก (RMS Gigantic) แต่ว่า มันสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1914 ภายหลังการล่มของไททานิก ส่งผลให้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก (RMS Britannic) [3] โดยคาดว่าจะใช้รับส่งผู้โดยสารเพื่อข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ก็เป็นแค่ความฝันเพราะตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี ส่งผลให้ใน ค.ศ. 1915 มันถูกเปลี่ยนจากเรือสำราญเป็นเรือพยาบาล รับ-ส่ง ทหารในต่างแดนในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน แทน และเปลี่ยนชื่อเป็น เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก (HMHS Britannic) [4] HMHS ย่อจาก His/Her Majesty's Hospital Ship (เรือพยาบาล) โดยได้มีการวางแผนไว้ว่าเมื่อหมดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว เรือจะถูกส่งคืนให้กับสายการเดินเรือไวต์สตาร์ไลน์เช่นเดิม

แม้บริแทนนิกจะใหญ่กว่าไททานิกกว่า 1,800 ตัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เรือบริแทนนิกได้กลายเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะสายการเดินเรือฮาเป็ก (Hapag หรือ Hamburg Amerika Line) จากเยอรมนี ได้สร้างเรือ SS Imperator (RMS Berengaria ของสายการเดินเรือคูนาร์ด) ที่ใหญ่กว่าบริแทนนิกและเสร็จก่อนบริแทนนิก [3]

เรือ เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก นั้นได้ทำภารกิจการเดินทางสำเร็จเพียงแค่ 5 ครั้ง โดยระหว่างการเดินทางครั้งที่ 6 นั้น เรือได้ชนกับทุ่นระเบิดใต้น้ำขณะกำลังเดินทางไปรับทหารที่บาดเจ็บแถวหมู่เกาะของประเทศกรีซพอดี จึงส่งผลให้เรือเสียหายอย่างหนักและจมลงในเวลาเพียง 55 นาทีเท่านั้น แตกต่างจากไททานิกที่ใช้เวลาจมนานถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที เนื่องมาจากรูที่เกิดจากการระเบิดของทุ่นใต้น้ำนั้นมีการขยายใหญ่ขึ้นขนาดเรือจมลง เพราะขณะที่น้าเข้าเรือ เรือยังคงพยายามที่จะแล่นไปยังหมู่เกาะที่ใกล้ที่สุดนั่นเอง โดยไทม์ไลน์การจมของเรือมีดังนี้[5]

08:12 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 เรือ เอ็ชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก ได้ชนกับทุ่นระเบิดใต้น้ำที่เรือดำน้ำฝ่ายเยอรมันวางไว้พอดี เรือเกิดอาการสั่นไหวค่อนข้างแรง ซึ่งส่งผลให้สายรับข้อความบนเรือบางส่วนขาด ทำให้เรือบริแทนนิกไม่สามารถรับข้อความตอบกลับจากเรือลำอื่นได้ แต่ยังสามารถส่งข้อความช่วยเหลือออกได้

08:25 น. ลูกเรือเริ่มปล่อยเรือชูชีพพร้อมพยาบาลลงน้ำ โดยภาพรวมนั้น ดำเนินการไปได้อย่างเรียบร้อยเนื่องจากพยาบาลมีการฝึกมาอย่างดี แตกต่างจากไททานิกและลูซิเทเนียที่เต็มไปด้วยความโกลาหล

08:30 น. มีเรือชูชีพลำแรกถูกใบจักรฟันเสียหาย เพราะในช่วงเวลาที่ลูกเรือเริ่มปล่อยเรือชูชีพลงน้ำ มีเรือชูชีพบางลำฝ่าฝืนคำสั่งของลูกเรือในเรื่องจังหวะการปล่อยเรือ ทำให้ถูกใบจักรเรือที่ยังไม่หยุดหมุนเฉี่ยวและฟันจนถึงแก่ความตาย

08:35 น. ใบจักรของเรือหยุดหมุน และเรือได้รับคำสั่งให้หยุด เนื่องจากกัปตันเล็งเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่เรือจะสามารถเดินทางไปยังเกาะใกล้เคียงได้ทันเวลา และได้ประกาศคำสั่งสุดท้ายบนเรือบริแทนนิก นั่นคือ "ทิ้งเรือ"

08:40 น. เรือได้หยุดนิ่งที่จุดสุดท้ายก่อนจมหายไปทั้งลำ เพราะแรงเฉื่อยของเรือที่อยู่ในน้ำนั้นหมดแล้ว

08:45 น. ป้ายชื่อด้านหน้าเรือเริ่มถูกน้ำกลืนหายไป ในขณะนี้ หัวเรือที่เป็นส่วนที่เอาไว้รับสินค้าเข้าเรือ อยู่ห่างจากระดับผิวน้ำเพียง 2 เมตร

08:55 น. น้ำเริ่มท่วมช่วงหัวเรือ ทำให้เรือเริ่มจมเร็วขึ้นเรื่อยๆ

09:01 น. น้ำเริ่มท่วมชั้นดาดฟ้าเรือ ส่งผลให้เรือเอียงไปทางขวาอย่างหนัก กัปตันผู้ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ยังอยู่บนเรือ เดินออกมาจากสะพานเรือที่น้ำท่วมแล้ว ลงเรือชูชีพต่อไป

09:05 น. ช่วง 2 นาทีสุดท้ายของเรือ เรือได้เอียงไปทางกราบขวาอย่างหนัก จนตะแคงข้าง ปล่องไฟเมื่อมีน้ำเข้าไปอัดในฐานจึงล้มลงมาทั้งหมด ก่อนที่หัวเรือจะชนกับก้นทะเล ซึ่งบริเวณนั้นมีความลึกเพียง 400 ฟุต (122 เมตร)​ เท่านั้น

09:07 น. เรือทั้งลำได้จมลงสู่ทะเลอีเจียนแถวหมู่เกาะประเทศกรีซ ใกล้เกาะคีย์ (Kea Island) มีผู้เสียชีวิตเพียง 30 คน เนื่องจากว่าพยาบาลและลูกเรือได้มีการซักซ้อมมาอย่างดี รวมเป็นเวลา 55 นาทีนับตั้งแต่ที่เรือชนกับทุ่นระเบิดใต้น้ำ

แหล่งที่มา

WikiPedia: เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก http://www.hospitalshipbritannic.com/history.htm http://www.hospitalshipbritannic.com/hosp_ship.htm http://www.hospitalshipbritannic.com/the_disaster.... http://www.maritimequest.com/liners/britannic_data... http://www.maritimequest.com/liners/britannic_page... http://www.thegreatoceanliners.com/britannic2.html http://www.britannicfoundation.org/ http://www.pbs.org/lostliners/britannic.html http://www.pbs.org/wgbh/nova/titanic